‘ประยุทธ์’ เห็นใจประชาชนหลังเจอ น้ำท่วมกรุงเทพ หวังว่าจะดีขึ้นในอนาคต

‘ประยุทธ์’ เห็นใจประชาชนหลังเจอ น้ำท่วมกรุงเทพ หวังว่าจะดีขึ้นในอนาคต

ประยุทธ์ เผยเห็นใจคนกรุงหลังเจอ น้ำท่วมกรุงเทพ หวังอนาคตจะดีขึ้น กำชับถ้าแก้ปัญหาน้ำท่วมกรุงเทพไม่ได้ ก็แก้ปัญหาอะไรไม่ได้ทั้งสิ้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงปัญหาน้ำท่วมกรุงเทพ ซึ่งเป็นผลกระทบจากฝนที่ตกลงมาอย่างหนักหลายชั่วโมง ส่งผลให้การจราจรติดขัดในหลายพื้นที่ว่ามีหน่วยงานกำลังแก้ปัญหาอยู่ ซึ่งก็เป็นแบบนี้ทุกครั้งที่ฝนตกในช่วงนี้ซึ่งเป็นหน้าฝน

ทุกคนทราบดีอยู่แล้วว่ากรุงเทพมหานครค่อนข้างแออัดอยู่พอสมควร 

ระบบการระบายน้ำจึงอาจไม่ทันเวลา เมื่อฝนตกปริมาณมากในช่วงเวลาจำกัด ทุกคนมีหน้าที่ทำงานอยู่แล้ว จึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่าหลายอย่างวันหน้าจะดีขึ้น ด้วยการจัดระเบียบแก้ปัญหาต่าง ๆให้ดีขึ้น

“เห็นใจคนกรุงเทพฯ ที่อยู่อย่างแออัด ซึ่งเป็นปัญหาที่ทุกคนจะต้องมาแก้ ถ้าไม่แก้เรื่องนี้จะแก้อะไรไม่ได้ทั้งสิ้น ขอบอกไว้เลย” พลเอกประยุทธ์กล่าว เมื่อถามย้ำว่า ขณะนี้เกิดสุญญากาศในกรุงเทพมหานคร เพราะยังไม่มีผู้ว่าฯ จะต้องกำชับข้าราชการให้ดูแลเป็นพิเศษหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวย้ำว่า มีหน่วยงานดูแลอยู่แล้ว

ศรีสุวรรณ บุก กกต. ยื่นสอบ ชัชชาติ ปมป้ายหาทำกระเป๋า-ผ้ากันเปื้อนได้ ถามเป็นการสัญญาว่าจะให้ อาจเข้าข่ายผิดกฎหมายได้

นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้เดินทางไปยัง สำนักงาน กกต.ศูนย์ราชการฯ เพื่อยื่นคำร้อง ขอให้ไต่สวนสอบสวนนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ กรณีทำป้ายหาเสียงเป็นผ้าไวนิลมีเจตนาแฝงเพื่อให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งสามารถนำไปรีไซเคิลเพื่อทำ “กระเป๋า-ผ้ากันเปื้อน” อันเป็นการกระทำเพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ลงคะแนนให้แก่ตนเองด้วยวิธีการ จัดทำให้ เสนอให้ สัญญาว่าจะให้ หรือจัดเตรียมเพื่อจะให้ ทรัพย์สิน หรือผลประโยชน์อื่นใดอันอาจคำนวณเป็นเงินได้หรือไม่ อย่างไร

ทั้งนี้แผ่นป้ายดังกล่าว มีการจัดทำแพตเทิร์น(Pattern)เป็นลายบางๆไว้ให้นำไปตัดเย็บตามรอยปะไว้เสร็จสรรพ เพื่อให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งสามารถนำไปหมุนเวียน (Recycle) โดยตัดเย็บเป็นกระเป๋าหรือเป็นผ้ากันเปื้อน ไว้ใช้ต่อกันเองได้ แม้จะพยายามสื่อว่าจะนำแผ่นป้ายดังกล่าวกลับมาตัดเย็บใช้กันเองในทีมหาเสียงก็ตาม แต่ทว่าป้ายหาเสียงมีจำนวน 380 ป้ายทีมหาเสียงมี 380 คนหรืออย่างไร

ซึ่งการเก็บกลับมาใช้เองเป็นเรื่องเพ้อฝัน เพราะหลังจากปิดหีบเลือกตั้งแล้ว ก็จะมีชาวบ้านหรือผู้มีสิทธิเลือกตั้งในพื้นที่เขตต่างๆ จะออกมาเก็บป้ายหาเสียงของผู้สมัครไปเป็นของตนแทบทั้งสิ้น ซึ่งถ้าจะเอาป้ายดังกล่าวนำกลับมาตัดเย็บใช้กันเองในทีม หลังจากเลือกตั้งผ่านไปแล้ว กกต. จะต้องไปตรวจสอบว่ามีการจัดเก็บป้ายทั้งหมดกลับไปทำกระเป๋า-ผ้ากันเปื้อนครบ 380 ผืนจริงหรือไม่ด้วย

สภาพัฒน์ เผย GDP ไตรมาสที่ 1 ปี 2565 เพิ่ม 2.2%

สภาพัฒน์ฯ รายงานต่อ ครม. ว่า GDP ไตรมาสที่ 1 ปี 2565 เพิ่มขึ้น 2.2% ขณะที่แนวโน้มของเศรษฐกิจประจำปี 2565 โตขึ้นมาอีก 2.5-3.5%

นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2565 ว่า ครม. รับทราบการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจไตรมาสแรกและแนวโน้มของปี 2565 ตามที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ กล่าวคือ ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ไตรมาสที่ 1 ปี 2565 เพิ่มขึ้น 2.2% จำแนกเป็น

ประมาณการตัวเลขแนวโน้มเศรษฐกิจไทยปี 2565 ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) เติบโตอยู่ที่ 2.5-3.5% ซึ่งใกล้เคียงกับประมาณการเศรษฐกิจโลกที่ขยายตัว 3.5% ส่วนแนวโน้มการเติบโตเศรษฐกิจไทยสาขาอื่น อาทิ การบริโภคภาคเอกชน 3.9% การลงทุนภาคเอกชน 3.5% การลงทุนภาครัฐ 3.4% มูลค่าการส่งออก (รูปเงิน USD) 7.3% และเงินเฟ้อ 4.2 – 5.2% สำหรับปัจจัยสนุบสนุนปี 2565 อาทิ

1. การผ่อนคลายมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ต่อเนื่อง ควบคู่กับความคืบหน้าการกระจายวัคซีน

2. ฐานรายได้ของครัวเรือนและภาคธุรกิจขยายตัวตามภาคการผลิตอุตสาหกรรมและภาคการส่งออก

3. การผ่อนปรนมาตรการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติโดยยกเลิกมาตรการ Test&Go

ส่วนข้อจำกัดและปัจจัยเสี่ยงในปี 2565 อาทิ

1. ภาระหนี้สินภาคเอกชนที่อยู่ในระดับสูงและจะเป็นอุปสรรคต่อการฟื้นตัวของอุปสงค์ภายในประเทศ รวมถึงตลาดแรงงานยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่

2. เชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่อาจนำไปสู่การแพร่ระบาดระลอกใหม่อีกครั้ง

3. ความยืดเยื้อของสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนและมาตรการคว่ำบาตร

4. แนวโน้มการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน

การขับเคลื่อนการใช้จ่ายและการลงทุนภาครัฐ เช่น เร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2565 ให้ได้ไม่น้อยกว่าร้อยละ 92.5 ของกรอบงบประมาณทั้งหมด และงบลงทุนรัฐวิสาหกิจให้ได้ไม่น้อยกว่าร้อยละ 70 ของงบประมาณทั้งหมด รวมทั้งการเบิกจ่ายโครงการตามพระราชกำหนดฯ เงินกู้วงเงิน 1 ล้านล้านบาท และ 5 แสนล้านบาทในส่วนที่เหลือ

Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป